Welcome to SilverizE's blog

ทำไมต้องกลองไฟฟ้า
ผมเชื่อว่า หลายๆคนในนี้ ก็อาจจะสงสัยว่า กลองไฟฟ้า ที่ราคามากกว่ากัน เกือบ 4 เท่า ดีกว่ากลองจริงอย่างไร ก็มีคำอธิบายดังต่อไปนี้ครับ
- กลองไฟฟ้า เก็บเสียงดีกว่า ถ้าบ้านคุณเป็นห้องแถว หรือ คอนโด การเหยียบเบสกลองจริงเสียงกระหึ่ม 4 ครัวเรือน คงไม่ดีแน่ใช่มั้ยครับ
- กลองไฟฟ้า ใช้ซ้อมได้เหมือน pad ยาง
- กลองไฟฟ้า ไม่ทำร้ายไม้กลองของคุณ และ หนังกลอง ไม่มีวันเสีย แฉ ไม่มีวันแตก (ถ้าคุณไม่ขว้างมันลงพื้นซะก่อน)
- กลองไฟฟ้า มีเสียงหลากหลาย ถ้าคุณจะมีแสนร์สัก 5 เสียง คุณก็ต้องมีแสนร์ 5 ตัวจริงมั้ยครับ ถ้าคูณเป็นเงินเข้าไป ก็ไม่ถูกเลย แต่ถ้าเป็นกลองไฟฟ้า ทุกอย่างสามารถปรับจูนเสียงได้ครับ ทั้งใส่ effect ได้ด้วย
- กลองไฟฟ้า อัดได้ครับ อาจจะงงว่า กลองจริงก็อัดได้ เมหือนกัน แต่ที่กลองไฟฟ้าดีกว่า คือ เวลาอัดเสียง สามารถอัดเป็น MIDI ได้ คือ ตีเพี้ยนยังไง ก็ใช้คอม จัดการเรียงโน้ตให้ตรง tempo เป๊ะ ท่อนไหนตีไม่ได้ ก็เอามือกดเสียงเอา ลบเสียง เพิ่มเสียง ได้ง่ายมากครับ
- มี feature ที่เกี่ยวกับ digital อย่าง Mix in (ต่อเครื่องเล่น mp3 แล้วตีให้เข้าจังหวะ, tempo, patternซ้อม)

มีข้อดี ก็มีข้อเสียครับ เมื่อเทียบกับกลองจริง
- แพง อันนี้ เถียงไม่ได้ครับ ต่ำสุด ก็ 28000 เข้าไปแล้ว
- ไม่ได้ feeling ของจริง เพราะ หนังกลองอะไร ก็ไม่เหมือน hihat ก็ไม่เหมือน ตีแล้ว ความเป็นหนัง และ โลหะ จะถูกแทนด้วย ยาง จนหมดครับ
- การจัดตั้ง จัดแต่ง ที่ไม่ได้อิสระเท่ากลองจริง

กลอง ไฟฟ้าแบบสำเร็จรูป (ซื้อมาติดตั้ง ใช้ได้เลย) มีอยู่หลักๆก็ 2 ยี่ห้อ คือ Yamaha กับ Roland กับ ซื้อแบบ ประกอบแยกคือ ซื้อ sound module อย่างยี่ห้อ Alesis หรือ ยี่ห้ออื่นๆ มาประกอบกับ pad กลองครับ อันนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับ กลองแบบประกอบเองครับ แบบประกอบ pad อันนี้ ผมไม่ค่อยมีความรู้ครับ คงต้องลองไปสืบกันเอง
http://www.tokaimusic.com/product.php?cat=24028&lang=th

กลองไฟฟ้า ยี่ห้อ Roland

อย่างที่รู้ๆกันว่า Roland มีความชำนาญในการทำเครื่องดนตรี Electronics มานานปี อย่าง Keyboard และ Keyboard ใบ้ยี่ห้อ Korg และอื่นๆ
จุดเด่นของกลองไฟฟ้า ของ Roland (นับเฉพาะรุ่นถูก ถ้ารุ่นแพง Yamaha เทียบไม่ติดเลย)คือ
- Roland มี Technology ใช้ใยพลาสติก เป็นหนังกลอง ซึ่งจะทำให้ได้ความรูสึกเหมือนกลองจริงมากขึ้น
- Technology การ หยุดเสียงแฉ โดยการจับใต้แฉ อันนี้ไม่แน่ใจว่า Yamaha มีรึเปล่า แต่เคยไปเล่น DTXPress IV แล้ว Yamaha ยังทำไม่ได้

กลอง ของ Roland มีรุ่นที่ คิดว่าน่าซื้อ (รุ่นอื่น แพงเว่อร์) ราคานี้ มาจากร้าน ธีระมิวสิค ที่ เวิ้งนาครเกษม ผู้เป็นตัวแทนนำเข้ากลองไฟฟ้า Roland ของประเทศไทย

- Roland HD-1ราคาอยู่ที่ 28000

http://www.roland.com/V-Drums_Lite
รุ่นนี้ เป็นกลองไฟฟ้าที่ราคาถูกที่สุดของ Roland เพิ่งออกมาเมื่อปีที่แล้ว มีลักษณะเด่นดังนี้
- ใช้ Snare แบบ PDX-1 ได้ความสมจริงในการตี
- มีแฉ และ hihat ทอม ครบเซท กางปุ๊บ เล่นได้ทันที
- ไม่ต้องซื้อกระเดื่องกลอง แต่ feeling การเหยียบ ก็อาจจะไม่ดีเท่า
- ติดตั้งง่าย แค่กางขาออก ก็ใช้ได้แล้ว
- เงียบ!!!! ขอย้ำว่า เงียบกว่ารุ่นแพงเสียอีก
- มีเสียงให้เลือก 10 ชุดเสียง รวมทั้งชุดเสียงที่มี 2BD (Double Bass) และชุดเสียงแปลกๆ อย่าง Voice หรือ Android
- ไม่สามารถทำ Rim shot(ตีขอบกลองพร้อมหนังกลอง แล้วจะเกิดเสียงที่ต่างจากปกติ) หรือ Edge ได้ (ตีขอบแฉ จะได้คนลเสียงกับ ตีในจานแฉ)
- เฉพาะรุ่น HD-1 ไม่สามารถถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ ทุกชิ้น ไม่ว่าจะเป็น sound module หรือ pad หมายความว่า ถ้าในอนาคต คุณมีเงินเพิ่มขึ้น อยากจะเพิ่มแฉ หรือ อยากจะเปลี่ยน tom ให้เป็นแบบ PDX หรือ เปลี่ยน sound module ให้มีเสียง และการทำงานที่หลากหลายขึ้น ไม่สามารถทำได้ มีวิธีเดียวคือ ซื้อชุด TD-XX ใหม่ทั้งชุดเท่านั้น
- ตำแหน่งการวาง pad และ ที่เหยียบ ปรับได้น้อย เมื่อเทียบกับรุ่น TD อาจจะไม่เหมาะกับคนตัวใหญ่ได้

ต่อ ไปจะเป็น Series TD นะครับ จะมีตั้งแต่ TD-5,TD-7 สองตัวนี้ เลิกผลิตไปแล้ว TD-10 กำลังจะเลิกผลิต และก็จะเป็น TD-3,TD-6,TD-9(ตัวใหม่),TD-12,TD-20
Series นี้ จะมีข้อดีตรงที่ ทุกชิ้นส่วนสามารถซื้อแยกได้ ไม่ว่าจะเป็น padทุกชิ้น แฉทุกตัว, sound module(ตัวที่แปลงสัญญาณการตี ให้เป็นเสียง หรือ output) หรือแม้กระทั่ง ที่เหยียบ rack(ขาตั้งกลอง)  อย่างเช่น ถ้าอยากเพิ่มแฉ ก็สามารถซื้อมา แล้วเสียบเข้า sound module ได้เลย
อ้อ TD Series ไม่มีกระเดื่องนะครับ อยากซื้อกระเดื่องเดี่ยว กระเดื่องคู่ ก็ตามสบาย แต่เพิ่มตังค์นะคับ

TD-3 เป็นตัวที่ถูกที่สุดใน TD จะมีขายอยู่ 2 รุ่นคือ...

http://www.roland.com/PRODUCTS/EN/TD-3Kit/index.html
TD-3KIT สนนราคาอยู่ที่ 39000 แต่จะได้ tom pad แค่สองอัน (ไม่มี low tom) และ Hihat และ snare จะใช้ Pad ธรรมดา
(ไม่ใช่ Hihat pad CY-5 หรือ PDX-1 ซึ่งจะได้ feeling เหมือนของจริงมากกว่า)

- Roland TD-3KV อันนี้ คือรุ่นที่ผมใช้อยู่ อันนี้ราคา 44000

http://www.roland.com/PRODUCTS/EN/TD-3KW/index.html
จะ ได้เป็นอุปกรณ์ครบชุด คือ CY-5 สำหรับ hi hat(เวลาตี จะแกว่งได้นิดหน่อย เหมือนของจริงในระดับหนึ่ง) แฉเป็น CY-8 (ตีแล้ว trigger เสียงได้สองแบบ คือ Edge และ bow) Pad snare เป็น PDX-1 (แบบใยสังเคราะห์+ support rim shot) และ tom pad PD-1 3ตัว support rim shot เช่นกัน แต่ pad จะเป็นยาง,ที่เหยียบ สำหรับขาซ้าย FD-7 ใช้ในการเหยียบ เปิดปิด hihat และ kick trigger ต้องซื้อกระเดื่องมาต่อเอง

สองรุ่นนี้ ต่างกันเฉพาะตัว pad ที่แถมมาให้เท่านั้น แต่ sound module ใช้ตัวเดียวกัน คือ TD-3
TD-3
- มี 32 ชุดเสียง (แต่ก็คล้ายๆกันหมด มีเสียง percussion อยู่สองอัน ที่เหลือ ก็ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา)
- ปรับตั้งอะไรได้เยอะกว่า HD-1 เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น การตั้งเสียงแยกชิ้น เช่น อยากให้ Tom3 เป็นเสียง crash 2 เป็นต้น หรือการตั้ง pad sensitive แบบแยกชิ้น
- Coach feature ไว้ฝึกให้เราตีตรงจังหวะ โดยจะมีแถบบอกจังหวะการตี

- Roland TD-6 อันนี้ คือ รุ่นที่ผมแนะนำสำหรับคนมีตังค์ ราคาอยู่ที่ 52000
หรือถ้าชอบแบบเป็น pad แนะนำ
- Handsonic 10

กลอง ไฟฟ้า ไม่ว่ายี่ห้อไหน ก็สามารถต่อเข้า PS2 เล่น Drummania ได้ แค่มี port MIDI IN, MIDI OUT แต่ต้องซื้อสาย Yamaha UX-16 เท่านั้น มาต่อจาก MIDI IN-OUT ออกเป็น USB แล้วเสียบเข้า PS2, ส่วนถ้าจะเล่นผ่าน DTXMania อย่างเดียวใช้สายยี่ห้ออะไรก็ได้ครับ
สายนี้ Yamaha UX-16 ผมไม่แน่ใจว่า เมืองไทยมีขายมั้ย เท่าที่เห็น มีที่ร้าน Tokai ไม่ก็ สั่งซื้อผ่าน Ebay ได้ มีคนขายยู่จากญี่ปุ่น ราคาอยู่ที่ 40$

เป็นกลองไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด  กับ 7 แป้นสัมผัส แป้นเท้ากระเดื่องกลอง แป้นเท้าไฮแฮท

ซาวด์แจ่มๆครับ จะใช้ลำโพงในตัว หรือ ไลน์เอ้าท์ผ่านเข้าตู้แอมป์ก็ได้เลยครับ

สำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ หรือจะนำไปสร้างสีสรร บนเวที ก้อ โอ คร้าบ

ฟังก์ชั่นพิเศษ เชื่อมต่อสัญญาณผ่านทาง USB Port (MIDI IN/OUT)

Features :

7 Drum Pads with Touch Sensitivity

2 pedals (bass drum & hi-hat)

215 Percussion Voices

25 Preset Drum Kits

5 User Kits

100 Songs

1 Demo Song

Connectors: DC 12V jack, Kick, Hi-Hat, Phones, USB Port (MIDI IN/OUT)

Dimensions: 500(W) x 370(D) x 157(H)mm

Danys Virtual Drum 2.0 โปรแกรมจำลองกลองชุดครับ ต่อลำโพงดีๆซะหน่อย เสียงออกมาแน่น เหมือนจริงมากๆ

Features:

• Is totally free!
• Various key sets for all!
• Realistic sound effects!
• Nice graphics effects!
• Contains a lot of musical bases!
• You can record your video or your song!

System Requirements:

• A processor with 800Mhz or better;
• A monitor with 1024×768 of resolution minmium;
• 512mb of ram (1gb is a lot better);
• Windows 98/ME/XP/VISTA;
• A sound card compatible with Directx8.

ดาวน์โหลดได้ที่
http://www.gameprojects.com/project/download/?id=8ac9d918c7

       
          ตอนนี้เราอยู่กับคุณชัชแห่งวง Body slam (บอดี้สแลม) วันนี้เป็นวันที่ 14 เดือนมิถุนายน 2553 และตอนนี้ผมมาสัมภาษณ์เขาที่สตูดิโอ ซึ่งที่วงมารอซ้อมอยู่ ร่วมกับวง Big ass และ No Mo Tear และเรามาเริ่มคำถามแรกกันเลย
RS: คุณเริ่มเล่นกลองเมื่อตอนอายุเท่าไหร่?
CB: ประมาณป.6 อายุ 12 ขวบ
RS: ทำไมไม่เลือกเล่นดนตรีชิ้นอื่น เช่น กีตาร์ เบส คีย์บอร์ด ทำไมเลือกกลอง?
CB: เคยเล่นแล้วครับแต่ไม่รอด เคยเล่นจริงๆ เล่นทรัมเป็ตกับวงดุริยางค์ ทรัมเป็ตกับแซ็ก แต่เล่นแล้วเจ็บปาก เลยหันมาเล่นสแนร์ มาร์ชชิ่ง ตอนมัธยม 1 แล้วค่อยขยับเป็นเบสดรัม วงโยจะมีเบสดรัมอยู่ 4 ใบ ผมเล่นใบที่ 2
RS: ตอนคุณเริ่มหัดเล่นกลองคุณมีครูสอนรึปล่าว?
CB: คนที่สอนผมชื่ออาจารย์แมว อาจารย์แมวเคยตีให้อาจารย์ปราชญ์ ตอนปราชญ์โซโล่อัลบั้ม เป็นครูคนแรกของผม คือไม่ได้เรียนในลักษณะตัวต่อตัวนะครับคือเป็นพี่ชายของเพื่อนจะเป็นลักษณะ ไปถามไปดูดรังสี ไปดูดวิชา แล้วก็มีมือกลองอีกคนคือ พี่มาตร กรู๊ฟไรเดอร์ คือเป็นรุ่นพี่ที่คณะที่มีส่วนช่วยก็มีสองคนนี้เป็นอาจารย์
RS: ตอนคุณช่วงวัยรุ่น 13-15 ปี มีวงวงไหนที่คุณชื่นชอบเป็นพิเศษรึปล่าว?
CB: เป็นวงไทยหรือต่างประเทศ
RS: วงต่างประเทศ
CB: ก็มีส่วนใหญ่เป็น เดธ เมทั่ล เช่นวง OBITUARY, SUFFOCATION อะไรพวกนี้ ส่วนใหญ่เป็นวงโหดๆ

          จากรายละเอียดขณะยังไม่ได้แกะกล่อง แจมฮับ! คือทางเลือกใหม่สำหรับการซ้อมดนตรีโดยไม่ใช้เสียง กล่าวคือนักดนตรีทุกคนจะสามารถแจมดนตรีกันได้ในห้องสมมติโดยฟังอยู่ในหูฟัง นั่นเอง
ห้องสมมติที่ว่าผู้ผลิตกำหนดมา 3 แบบ แจมฮับเลยผลิตมา 3 รุ่น ดังนี้
1. Bed Room หรือ ห้องนอนนั่นเอง คุณสามารถซ้อมดนตรีในห้องนอนดังแค่ไหนก็ได้ สูงสุด 5คน
2. Green Room สำหรับนักดนตรี 7 คน โดยขจัดปัญหาการแข่งกันดัง พกไปแจมที่ไหนก็ได้
3. Tour Bus มีระบบบันทึกเสียงในตัวเลย ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต เวลาที่คุณซ้อมดนตรีในรถหรือแจมดนตรีฆ่าเวลา ซึ่งอาจเกิดเพลงใหม่ๆขึ้น รุ่นนี้สามารถบันทึกเสียงไว้ได้โดยไม่ต้องพึงคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ภายนอก

          
          กรู๊ฟเวริด์เอาท์นี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก "Salif Keita" มือกลองของ "Mokhter Samba" จากเพลงที่ชื่อว่า "Sumun" จากอัลบั้มชุด "Folon" ผมได้อัลบั้มชุดนี้มาเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว แต่พึ่งมีโอกาสได้นั่งฟังอย่างจริงจังเมื่อไม่นานมานี้ และกับบทเรียนนี้ผมดูไว้สำหรับเล่นกับเพลง (Music play along) เพื่อใช้สอนให้กับนักเรียนของผม เรานั่งฟังเพลงนี้ด้วยกัน และศึกษาดูว่าเราสามารถจะนำส่วนไหนของเพลงมาทำอะไรได้บ้าง จากบทเรียนทั้ง 20 แบบฝึกหัดนี้ สำหรับผมเป็นอะไรที่ลึกซึ้งมาก และเมื่อคุณจะเริ่มต้นบทเรียนนี้ จงคิดอย่างมือกลองของ เจมส์ บราวน์ ที่ทำในสตูดิโอคืออย่าใส่ฟิลลิ่งอะไรลงไป พยายามเล่นตามในแบบฝึกหัด เพราะมันมีความสมบูรณ์แบบในตัวของมันเองอยู่แล้ว

เอาละครับ เรามาพูดคุยกับเคนกัน
RS: ตอนนี้คุณอายุเท่าไหร่ครับ?
KZ: 31 ครับ
RS: ตอนคุณเริ่มเล่นกลองอายุเท่าไหร่?
KZ: ตอน ม.3 ตอนอายุ 15 ปี
RS: ทำไมเล่นกลอง ทำไมไม่เล่นเครื่องอื่นเช่นกีต้าร์หรือเครื่องอื่นๆ?
KZ: เห็นจากพ่อนะครับ พ่อเป็นมือกลอง พ่อเป็นนักดนตรี แล้วก็ประทับใจ น่าจะฝึกง่ายเพราะพ่อเล่นด้วยนิดหน่อย
RS: ตอนคุณเล่นเริ่มเล่นกลอง คุณมีแรงบันดาลใจบ้างไหม? ใครเป็นแรงบันดาลใจของคุณ? จะเป็นวงไทยหรือวงต่างประเทศก็ได้ที่คุณฟังแล้วติดใจในครั้งแรก ตอนคุณอายุ 15 ปีก็ได้
KZ: หินเหล็กไฟ
RS: แล้ววงต่างประเทศละครับ?
KZ: Dream Theater

ตัวอย่างแบรนด์กลอง

1. Tama
2. Pearl

3. Baracuda

4. Ludwig